วันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 เวลา 10.00 น. กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยกลุ่มพัฒนาระบบงานการศึกษาและฝึกวิชาชีพ จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “โครงการพัฒนาอาชีพสำหรับเยาวชน ระยะที่ 2.2” ระหว่างกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กับ องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย โดยมี พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจฯ และ Mr. John McGown ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย องค์การแพลนฯ ร่วมลงนามฯ ในการนี้นางณัฐภัสสร สุนทรฐณะวัฒน์ รองอธิบดีกรมพินิจฯ และ ผู้แทนผู้อำนวยการฝ่ายโครงการองค์การแพลนฯ ร่วมลงนามเป็นสักขีพยาน
สำหรับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อประสานความร่วมมือระหว่างองค์กรทั้งสองในการเสริมสร้างเด็กและเยาวชนให้มีทักษะชีวิตที่เป็นพื้นฐานในการปรับตัวและพัฒนาพฤติกรรมเชิงบวก รวมถึงทักษะในด้านการทำงานให้มีความสอดคล้องกับตลาดแรงงาน นำไปสู่การเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานในอนาคต ทั้งนี้ยังสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนได้เข้าฝึกงานและได้รับการจ้างงานในงานที่เหมาะสม โดยการดำเนินการของโครงการ แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 2.1 ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2563 จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ.2564 มีศูนย์ฝึกและอบรมฯ เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กฯ บ้านอุเบกขา, บ้านปรานี และสิรินธร ส่วนในระยะที่ 2.2 ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 – 30 มิถุนายน 2564 มีศูนย์ฝึกและอบรมฯ เข้าร่วม อีก 3 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กฯ เขต 1 ระยอง, เขต 2 ราชบุรี และเขต 11 ลพบุรี โดยมีผู้แทนแต่ละหน่วยงานร่วมลงนาม
พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจฯ กล่าวว่า “กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มีภารกิจแก้ไข บำบัด ฟื้นฟูเด็กและเยาวชนกระทำผิดที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมด้วยการให้การศึกษาทั้งสายสามัญและฝึกวิชาชีพ โดยส่งเสริมการใช้กระบวนการยุติธรรมทางเลือกและมาตรการอื่นๆ เพื่อสนับสนุนกระบวนการยุติธรรมและป้องกันการกระทำผิดของเด็กและเยาวชน ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย พัฒนากฎหมาย รูปแบบและวิธีการปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชน โดยมีเจตจำนงที่จะร่วมมือขับเคลื่อน และพัฒนาศักยภาพบุคลากรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการสนับสนุน และการพัฒนาแบบองค์รวม นำไปสู่การแก้ไขบำบัดฟื้นฟูของเด็กและเยาวชนในประเทศไทยที่อยู่ภายใต้การดูแลของกรมพินิจฯ ผ่านการใช้กิจกรรมการเรียนรู้ภายใต้หลักสูตรทักษะชีวิตและเตรียมความพร้อมในการทำงานสำหรับศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน ซึ่งมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตเด็กและเยาวชนที่อยู่ภายใต้การดูแลของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ให้มีทักษะชีวิตและทักษะในการทำงาน ที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน ตลอดจนได้รับการจ้างงานที่เหมาะสม ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณคณะผู้บริหารองค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ที่สนับสนุนและมีส่วนร่วมในโครงการพัฒนาอาชีพสำหรับเยาวชน ระยะที่ 2.2 สำหรับเด็กและเยาวชนในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน อันเป็นการเพิ่มศักยภาพของเด็กและเยาวชนไทยซึ่งเป็นอนาคตที่ดีของชาติต่อไป”
จากนั้น Mr.John McGown ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า “ในนามขององค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำงานเพื่อส่งเสริมสิทธิเด็กและความเสมอภาคระหว่างเพศในประเทศไทย กระผมรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ จากอัตราการว่างงานที่องค์การแรงงานระหว่างประเทศเคยเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับตลาดแรงงานในประเทศไทยไว้ว่าประชากรที่มีอายุระหว่าง 15 – 24 ปี ซึ่งถือเป็นเยาวชน มีอัตราการว่างงานสูงมากกว่าวัยผู้ใหญ่ ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาด้านกระจายโอกาสที่เท่าทียมของประเทศไทยในการจ้างงาน รวมไปถึงอคติที่มีต่อการจ้างงานเยาวชนที่ยังคงมีอยู่ในประเทศ ซึ่งการว่างงานของเยาวชนเหล่านี้จะนำไปสู่ผลเสียต่อร่างกายและจิตใจ นอกจากนี้รายงานผลการศึกษาทางวิชาการจำนวนมากแสดงให้เห็นว่า การขาดการศึกษาและทักษะในการทำงานนำไปสู่การได้รับค่าตอบแทนที่ต่ำ โอกาสในการว่างงานสูง และทำให้มีอายุขัยที่สั้นลง ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ใหญ่ในวัยแรงงานแล้ว เยาวชนมักจะเป็นกลุ่มที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงการอบรมด้านอาชีพ ทักษะชีวิตและการเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงาน ส่งผลให้เยาวชนในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนประสบความยากลำบากในประเด็นดังกล่าวข้างต้นมากกว่าเด็กกลุ่มอื่นๆ ดังนั้นการให้การสนับสนุนทักษะแก่เยาวชนกลุ่มนี้มีความจำเป็นและเป็นส่วนสำคัญต่อการสร้างต้นทุนชีวิตที่ดีให้แก่พวกเขา รวมทั้งเป็นการลดการแบ่งแยก การกีดกันและอคติจากนายจ้าง เพื่อนร่วมงาน รวมถึงสังคมด้วย องค์การแพลนฯ จึงได้เริ่มดำเนินโครงการพัฒนาอาชีพสำหรับเยาวชน ร่วมกับกรมพินิจฯ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 โดยมีมูลนิธิซิตี้ (Citi Foundation) ให้การสนับสนุน ซึ่งโครงการนี้สามารถสร้างทักษะชีวิตและทักษะอาชีพที่จำเป็นสำหรับเยาวชนกลุ่มเป้าหมายได้ สามารถเชื่อมโยงสู่การจ้างงานและพัฒนาความเป็นอยู่ของเยาวชนซึ่งเป็นการขยายโอกาสในการทำงาน นำไปสู่ความมั่นคงทางเศรษฐกิจลดอัตราการกระทำความผิดซ้ำในอนาคต”
ซึ่งพิธีลงนามในครั้งนี้มีผู้บริหารระดับสูงของกรมพินิจฯ บุคลากรที่เกี่ยวข้องของกรมพินิจฯ และองค์การแพลนฯ เข้าร่วมพิธีด้วย ณ ห้องรับรองกระทรวงยุติธรรม ชั้น ๒ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร