กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เตรียมบุกตลาดสินค้าดิจิทัลออนไลน์และการตลาดสินค้าสุขภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดตลาด ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพรประเทศไทยที่มีมาตรฐานเตรียมลุกตลาดเพื่อนบ้าน “กัมพูชา”ครั้งแรก
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มีการอบรมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการสมุนไพร เรื่อง “การตลาดสินค้าดิจิทัลออนไลน์และการตลาดสินค้าสุขภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ราชอาณาจักรกัมพูชา)” โดยมีผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพร ร่วมเจรจาจับคู่ธุรกิจจำนวนกว่า 60 ราย เข้ารับการอบรม
นายแพทย์ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ตามพระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562 กำหนดให้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มีภารกิจในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการสมุนไพรในด้านต่างๆ ทั้งในด้านคุณภาพ การผลิต การจัดการ และการตลาด การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาและการผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพร การอบรมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการสมุนไพร ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดทั้งในและต่างประเทศ การอบรมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการสมุนไพร เรื่อง “การตลาดสินค้าดิจิทัลออนไลน์และการตลาดสินค้าสุขภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ราชอาณาจักรกัมพูชา)” ในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อให้ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย มีความรู้และความเข้าใจในเรื่องของ Digital Market และการเปิดตลาดผลิตภัณฑ์สุขภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ราชอาณาจักรกัมพูชา)
สำหรับประเทศกัมพูชา เป็นประเทศที่น่าสนใจในการลงทุนเนื่องจากสินค้าไทยเป็นที่ต้องการเป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคชาวกัมพูชา ในเวทีนี้จะมีการเจรจาจับคู่ธุรกิจในการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยในราชอาณาจักรกัมพูชา โดยจะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นรางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพ (Prime Minister Herbal Awards), รางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพ (Premium Herbal Products) และ การรับรองตราสัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์สมุนไพรกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Quality Thai Herbal Awards) ทั้งสิ้น 18 บริษัท ถ้าบริษัทไหนได้รับการคัดเลือก ก็จะสามารถไปวางในตลาดผลิตภัณฑ์สินค้าดิจิทัลออนไลน์และการตลาดสินค้าสุขภาพ ในประเทศกัมพูชา ต่อไป
นายแพทย์ปราโมทย์ กล่าวในตอนท้ายว่า ถือเป็นโอกาสที่ดีของตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ที่จะได้ครองตลาดสินค้าดิจิทัลออนไลน์และการตลาดสินค้าสุขภาพในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะเป็นแนวทางในการขยายช่องทางการตลาดของผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยต่อไปต่อไปในอนาคต
……………………………………