“รองนายกฯประวิตร” เปิดงาน “POWERING DIGITAL THAILAND 2021” ชู ไทยเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของอาเซียน

วันที่ 11 พ.ย.63 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธี เปิดงาน Powering Digital Thailand 2021 โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์โดยมี นาย พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์. รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.กระทรวงแรงงาน และ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ พร้อมผู้บริหารที่เกี่ยวข้องร่วมงาน

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีเป็นหัวใจหลัก ของการพัฒนาประเทศ ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกในกลุ่มประเทศอาเซียนที่ได้พัฒนาเทคโนโลยี 5G มาใช้ในเชิงพาณิชย์ และขณะนี้ได้ครอบคลุมพื้นที่ EEC เกือบทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ระบบ 5G ,ระบบ Cloud และ AI จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลของภูมิภาค ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และนำไปสู่การต่อยอดนวัตกรรมแบบไม่มีที่สิ้นสุด โดยรัฐบาลได้กำหนดแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นเครื่องมือสนับสนุนในการพัฒนาประเทศ ให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยี ที่ทันสมัยภายใต้ความร่วมมือของภาครัฐ และเอกชน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจ การอำนวยความสะดวก ให้กับประชาชน และการพัฒนาประสิทธิภาพ ของภาครัฐ ที่จะส่งผลให้เกิด ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ให้กับประเทศไทยในระยะยาว และสามารถนำพาประเทศไทย ก้าวสู่ยุค 4.0 ได้ในที่สุด

ขณะที่นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่เศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ในการวางพื้นฐานโทรคมนาคมที่เข้มแข็ง รัฐบาลได้วางรากฐานครอบคลุมแล้ว ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ประมูล 5G ก่อน ถ้าเราไม่ประมูล 5G จะทำให้ผู้ให้บริการ 5G ตกอยู่ในมือเอกชนทั้งหมด และเมื่อต้องการใช้งานเพื่อประโยชน์ของสังคม จึงต้องให้ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) หรือ CAT และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ร่วมประมูล ซึ่งวันนี้ประเทศไทยมี 5G นำร่องที่ EEC ต้นปีหน้าจะเห็น 5G เป็นรูปธรรม และยิ่งไปกว่านั้นประเทศไทยถือว่า บริหารจัดการแก้ปัญหาโควิด-19 ได้ดีกว่าประเทศอื่น เราจึงต้องรองรับการใช้เทคโนโลยีที่มากขึ้นเพื่อประโยชน์ของคนทั้งประเทศ โดยระยะอันใกล้นี้กระทรวงฯ จะเร่งผลักดันให้เกิดการควบรวม CAT และ TOT เป็น บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ เอ็นที ในปีหน้า โดยประโยชน์ของการควบรวมนั้น นอกจากจะลดความซ้ำซ้อนเพื่อดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมร่วมกัน เพิ่มประสิทธิภาพ เพื่อให้รัฐวิสาหกิจเป็นผู้ให้บริการแก่สังคม สนับสนุนงานนโยบายภาครัฐ และเพื่อคนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ โดยเฉพาะการนำเอา 5G มาพัฒนาเพื่อให้บริการในอุตสาหกรรม เพราะ 5G ไม่ใช่โทรศัพท์มือถืออย่างเดียว แต่ 5G จะรองรับการใช้งานทุก Network สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของทุกคน การจัดงานนี้ จึงเป็นโอกาสดีที่จะรับรู้ แนวทางการนำ 5G มาใช้งาน เพื่อให้ธุรกิจได้เตรียมตัวและทราบว่าจะมีส่วนร่วมอย่างใดได้บ้าง ดังนั้น สิ่งที่จะพัฒนาอย่างแรกคือ ECC

นอกจากนี้ ในส่วนของกิจการดาวเทียม หลายประเทศให้ความสำคัญกับการพัฒนาดาวเทียมวงโคตรต่ำ ดาวเทียมมีขนาดเล็กลงในระยะอันใกล้ด้วยการเตรียมการร่วมพัฒนาระบบดาวเทียมวงโคจรต่ำ Low Earth Orbit (LEO) ซึ่งทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญ CAT จึงได้เตรียมบุคลากรและความพร้อมในการเสนอทางเลือกในการให้บริการดาวเทียมวงโคจรต่ำ รองรับความต้องการของทุกอุตสาหกรรม ส่วนการบริหารจัดการอุตสาหกรรมดาวเทียมด้วยเป็นช่วงเวลาที่สัมปทานดาวเทียมไทยคมจะหมดลง รัฐบาลคาดว่าการประมูลจะเกิดขึ้นภายในปลายปี 2564 หากทำได้ตามกำหนดภายใน 1-2 ปี จะได้เห็นการใช้งานจากดาวเทียมวงโคจรต่ำ

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า สำหรับการใช้งานฐานข้อมูลหรือ Big Data ให้เป็นประโยชน์ รัฐบาลได้พัฒนาระบบคลาวด์กลางภาครัฐ (Government Data Center and Cloud Service : GDCC) เพื่อทำหน้าที่ปกป้องข้อมูลของประชาชน รวมถึงการออก พ.ร.บ.การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลคลาวด์กลางของภาครัฐ หรือ GDCC จะรวบรวมข้อมูลของรัฐทั้งหมดเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์เพื่อให้บริการ ตั้งแต่ปี 2564 ข้อมูลของรัฐจะมาอยู่ที่ GDCC ทั้งหมด ปัจจุบันมีการขอใช้งานแล้วกว่า 22,000 VM มากกว่าที่ประมาณการไว้ที่ 8,000 VM ถือเป็นผลมาจากการเปลี่ยนการทำงานในช่วงโควิด-19 กระทรวงฯ จึงต้องเร่งดำเนินการด้านงบประมาณเพื่อเพิ่มความสามารถให้รองรับได้ทั้งหมด

“ปีหน้ากระทรวงดิจิทัลฯ ให้ TOT ทำศูนย์ Data Center เพิ่มในพื้นที่ EEC จะทำให้มีศูนย์จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่เพิ่มเติม รองรับการใช้งานเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์โดยเฉพาะนักลงทุนที่ต้องการความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล โดยไม่ต้องนำไปเก็บที่ต่างประเทศเหมือนที่ผ่านมา เมื่อรวมกับที่ CAT ทำไว้ 2 จุด รวมเป็น 3 จุดใหญ่ไว้รองรับ”

สำหรับการจัดงานครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง หัวเว่ย เทคโนโลยี่(ประเทศไทย) จำกัดและ บริษัทบางกอกโพสต์จำกัด(มหาชน) จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 11-14 พฤศจิกายน 2563 ณ โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิร์ลด์ โดย คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 4,500 คนจากองค์กรชั้นนำต่าง ๆ ของทุกอุตสาหกรรม รวมถึงผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรธุรกิจชั้นนำ และผู้มีเกียรติจากสถานทูตต่าง ๆ ภายในงานจะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้แลกเปลี่ยนไอเดียที่น่าสนใจกับผู้เชี่ยวชาญในภาคอุตสาหกรรม สำรวจโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ไปพร้อมกับผู้นำในวงการธุรกิจ เรียนรู้มุมมองและเทรนด์ล่าสุดของภาคอุตสาหกรรมรวมถึงเทคโนโลยี ICT รวมทั้งสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ในการใช้งานแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มดิจิทัลต่าง ๆ อีกด้วย

##############