กรมทรัพย์สินทางปัญญา เยือนถิ่นชุมชนริมโขง รับคำขอ GI “ผ้าหมักโคลนบึงกาฬ” พร้อมเฟ้นหาว่าที่ GI “ปลานิลกระชังแม่น้ำโขง”

​​​อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา นำทีมลงพื้นที่บึงกาฬ รับคำขอ “ผ้าหมักโคลนบึงกาฬ” ขึ้นทะเบียน สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) พร้อมเฟ้นหาสินค้าที่มีศักยภาพขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI พบ “ปลานิลกระชังแม่น้ำโขง จังหวัดหนองคาย” อาจเข้าข่ายสินค้า GI

วันที่ 10 กันยายน 2563 นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เป็นประธานการประชุมคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์และการรับคำขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของจังหวัดบึงกาฬ ณ ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ โดยมีคณะผู้แทนจากหน่วยงาน อาทิ สำนักงานพาณิชย์จังหวัด กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ผู้ผลิตและผู้ประกอบการในพื้นที่ ร่วมหารือสินค้าที่มีศักยภาพในการส่งเสริมการขึ้นทะเบียน GI ของจังหวัดบึงกาฬ

พร้อมนี้ ตัวแทนจังหวัดบึงกาฬได้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียน GI “ผ้าหมักโคลนบึงกาฬ” ต่อ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา และนำคณะลงตรวจเยี่ยมแหล่งผลิตผ้าหมักโคลนบึงกาฬในพื้นที่บ้านสะง้อ ตำบลหอคำ จังหวัดบึงกาฬ เพื่อตรวจสอบกระบวนการผลิตผ้าหมักโคลนบึงกาฬ

​​​นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า “บึงกาฬเป็นจังหวัดน้องใหม่ที่อุดมสมบูรณ์ มีภูมิอากาศดีเพราะได้รับอิทธิพลจากแม่น้ำโขง ทำให้มีผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งผ้าหมักโคลนบึงกาฬถือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ชุมชนที่นำดินโคลนจากธรรมชาติมาสร้างมูลค่า โดยการนำโคลนจากริมแม่น้ำโขงมาหมักกับผ้าฝ้ายด้วยกรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม ทำให้ผ้ามีสีเทาเข้ม มีผิวสัมผัสนุ่ม มันวาว และมีกลิ่นหอมละมุนของไอดิน เป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่นของชาวบึงกาฬ

ซึ่งจากการประชุมร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ครั้งนี้ ได้เห็นถึงการเตรียมความพร้อมและความเข้มแข็งของคนในชุมชน โดยหลังจาก รับคำขอดังกล่าว กรมฯ จะตรวจสอบรายละเอียดคำขอและพิจารณารับขึ้นทะเบียน GI ต่อไป พร้อมย้ำให้ชุมชนร่วมรักษาคุณภาพสินค้าคงไว้ซึ่งความมีอัตลักษณ์ของสินค้า GI ผ่านการจัดทำคู่มือปฏิบัติงานสำหรับสมาชิกผู้ที่จะขอใช้ตราสัญลักษณ์ GI ต่อไป”

ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ยังได้พบว่า ปลานิลกระชังในแม่น้ำโขง จังหวัดหนองคาย น่าจะมีศักยภาพที่จะส่งเสริมการขึ้นทะเบียน GI ได้ ซึ่งปลานิลกระชังในแม่น้ำโขง เลี้ยงในน้ำไหลทำให้ปลามีเนื้อแน่น ไม่มีกลิ่นโคลน ไขมันน้อย รสชาติดี ซึ่งในอนาคตหน่วยงานในพื้นที่จะศึกษารายละเอียดความเป็นไปได้ในการขึ้นทะเบียน GI เพื่อสร้างรายได้สู่ชุมชนและสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืนต่อไป

………………………………………………