วันที่ 20 ส.ค. 63 นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ร่วมเสวนาเรื่อง “พลเมืองกัมมันตะ (Active Citizen) กับตำบลเข้มแข็ง” ซึ่งกระทรวง พม. โดย สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. จัดร่วมกับคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา คณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และกองทุนสานพลังเพื่อสังคมสุขภาวะ
โดยมี นายแพทย์อําพล จินดาวัฒนะ ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษา เสนอแนะ การแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำด้านสังคม และประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตามการปฏิรูปด้านสังคม กิจการผู้สูงอายุและสังคมสูงวัย เป็นประธานเปิดการเสวนา พร้อมด้วย ศ.นพ. ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เข้าร่วมเสวนา ณ ห้องประชุมไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ชั้น 1 สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิกรุงเทพฯ
นายจุติ กล่าวว่า การเสวนา “พลเมืองกัมมันตะ (Active Citizen) กับตำบลเข้มแข็ง” ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสานพลังหน่วยงานและองค์กรต่างๆในการหนุนเสริมให้เกิดพลังพลเมืองโดยเฉพาะการเป็นพลเมืองกัมมันตะ (Active Citizen) ที่มีความตื่นตัวกระตือรือร้น รวมตัว ร่วมคิด ร่วมทำ เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติให้เป็นไปตามเป้าหมาย “ตำบลเข้มแข็ง มั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน” และเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และแสวงหาแนวในการหนุนเสริมให้เกิดพลังพลเรือนโดยเฉพาะการเป็นพลเมืองกัมมันตะ (Active Citizen) ที่มีความตื่นตัวกระตือรือร้น รวมตัว ร่วมคิด ร่วมทำ เพื่อเป็นต้นแบบในการขยายผลไปสู่ชุมชนในระดับตำบลต่างๆต่อไป
โดยวันนี้ นับเป็นการมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และวิธีการทำงานในเรื่องการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำและความยากจน ซึ่งได้เห็นตรงกันว่าการแก้ปัญหาต้องมาจากฐานราก คือ ชุมชนทั่วประเทศ และทุกคนต้องยอมรับว่าโลกทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก แม้กระทั่งกระทรวง พม. ยังมีการปรับการทำงาน โดยเน้นการบูรณาการทรัพยากรที่มี และฟังวัตถุประสงค์ของประชาชนเป็นหลัก ทั้งนี้ จะมีการขยายชุมชนเข้มแข็งด้วยการสร้างตำบลคู่มิตร โดยจะไปทำงานร่วมกันกับตำบลอื่น เพื่อให้เกิดการบูรณาการกัน และมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้คือการลดความเหลื่อมล้ำและการสร้างโอกาส สร้างรายได้ และสร้างอาชีพให้เกิดขึ้นในชุมชน
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเป้าหมายของการดำเนินงานนั้น คืออยากให้ทุกชุมชนมีความเข้มแข็ง ทั้งเรื่องของการสื่อสาร การทำงาน และต้องมีความทันสมัย ซึ่งจะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงติดตามแก้ปัญหาของประชาชน โดยเฉพาะปัญหาของความเหลื่อมล้ำ ขณะเดียวกันทุกคนที่ไปทำงานด้านสังคม ด้านชุมชน ต้องให้โอกาส ให้ความเห็นใจ และให้เวลากับปัญหาของประชาชน ส่วนเรื่องทรัพยากรจะมาทีหลังการแก้ปัญหา ในเรื่องของการซ่อมบ้านนับเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ซึ่งทุกหน่วยงานต้องร่วมกันให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว ถ้าทุกคนมีบ้านที่มั่นคง ครอบครัวอบอุ่น และสังคมก็จะเข้มแข็ง วันนี้ประเทศไทยต้องการกลับมาซ่อมแซมครอบครัวให้เข้มแข็ง เพราะถ้าแก้ไขปัญหาที่ครอบครัวได้ปัญหาสังคมก็จะน้อยลง
………………………………………………………………………………..