นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ครั้งที่ 32 – 5/2563 นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ครั้งที่ 32 – 5/2563 โดยมี นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม ผู้แทนกรมเจ้าท่า (จท.) กรมการขนส่งทางบก กรมทางหลวง สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) การรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) บริษัท ขนส่ง จำกัด บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTS) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะธนาคารแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ในวันที่ 14 สิงหาคม 2563 ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ กล่าวว่า ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าและติดตามแนวทาง บริหารจัดการระบบตั๋วร่วม สรุปดังนี้
1. ความคืบหน้าการจัดทำระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารจัดการตั๋วร่วม พ.ศ. …. ซึ่งล่าสุด สนข. ได้ไปร่วมชี้แจงรายละเอียดต่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาอยู่ระหว่างการปรับร่างระเบียบฯ และจะส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป
2. ความคืบหน้าการการพัฒนาระบบจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ (AFC) ของระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนให้สามารถใช้บัตรโดยสารข้ามระบบ (Interoperable Ticketing System) รฟม. อยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการจัดทำคำสั่งเปลี่ยนแปลงงาน (Variation Order: VO) คาดว่าจะสามารถลงนามได้ในเดือนสิงหาคม 2563 และนำเสนอคณะกรรมการ รฟม. พิจารณาให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ การพัฒนาระบบจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ (AFC) ของระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนให้สามารถใช้บัตรโดยสารข้ามระบบจะใช้เวลาดำเนินการ 8 เดือน คาดว่าจะเริ่มปฏิบัติงานได้ภายในเดือนกันยายน 2563 สำหรับ BTS ขณะนี้ได้ลงนามในสัญญาว่าจ้างพัฒนาระบบฯ แล้วเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 คาดว่าจะพัฒนาระบบฯ แล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2563 และทดสอบระบบได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2563 ซึ่งการทดสอบระบบระหว่างกันจะใช้เวลาประมาณ 1 – 2 เดือน
3. การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการใช้บัตรโดยสารข้ามระบบ ขณะนี้ สนข. อยู่ระหว่างดำเนินการรวบรวมข้อมูลเพื่อศึกษาวิเคราะห์อัตราค่าธรรมเนียมการใช้บัตรโดยสารข้ามระบบที่เหมาะสม คาดว่าจะนำเสนอคณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมได้ภายในเดือนกันยายน 2563
4. ความคืบหน้าการดำเนินงานเกี่ยวกับระบบตั๋วร่วม
4.1 รฟฟท. ได้ว่าจ้างพัฒนาระบบจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ (AFC) รองรับโครงการตั๋วร่วม ซึ่งผู้รับจ้างยังไม่สามารถส่งมอบแผนงานและส่งมอบงานจ้างพัฒนาระบบฯ ได้ตามสัญญา และยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ โดยผู้รับจ้างอ้างว่าประสบปัญหาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติให้ รฟฟท. เร่งรัดให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด และให้ดำเนินการต่าง ๆ โดยยึดสัญญาเป็นหลัก
4.2 จท. ได้ดำเนินการพัฒนาท่าเรือที่อยู่ในความรับผิดชอบ จำนวน 17 ท่า ปัจจุบันมีท่าเรือที่ปรับปรุงแล้วเสร็จ จำนวน 8 ท่า พร้อมรองรับการดำเนินการพัฒนาระบบตั๋วร่วม ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการรายใดมีความพร้อมดำเนินการ จท. พร้อมจะสนับสนุน ทั้งนี้ ได้กำชับให้หน่วยงานต่าง ๆ เร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนด โดยยึดถือข้อกฎหมายเป็นสำคัญ
……………………………………….