ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
- นักลงทุนกังวลต่ออุปสงค์น้ำมันโลกหลังไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก อาทิ ตะวันออกกลาง ลาตินอเมริกา และยุโรป ล่าสุดในสหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตรายแรก แม้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Donald Trump แถลงว่าความเสี่ยงจากการเสียชีวิตของชาวสหรัฐฯ ด้วยโคโรนาไวรัสยังคงต่ำมาก อย่างไรก็ดีศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (Centers for Disease Control and Prevention: CDC) ได้ออกมาเตือนให้ชาวอเมริกันเตรียมพร้อมรับมือกับไวรัส COVID-19 ที่อาจแพร่ระบาดอย่างหนักในสหรัฐ ฯ
- Executive Director ของ IEA นาย Fatih Birol แถลงผลกระทบจากไวรัส COVID-19 ทำให้อัตราการเติบโตอุปสงค์น้ำมันโลกต่ำสุดในรอบ 10 ปี และ IEA อาจปรับลดอัตราการเจริญเติบโตอุปสงค์น้ำมันโลกในปี พ.ศ. 2563 ลงจากการคาดการณ์ครั้งก่อนเมื่อวันที่ 13 ก.พ. 63 และผลสำรวจนักวิเคราะห์จาก 18 สถาบัน โดย Bloomberg คาดว่าการแพร่ระบาดของไวรัส จะทำให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของจีน ในไตรมาส 1/63 ต่ำสุดในรอบ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 4% ต่อปี
- Energy Information Administration (EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 ก.พ. 63 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 40,000 บาร์เรล อยู่ที่ 443.3 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบ 2 เดือน และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบคงที่อยู่ที่ 13 ล้านบาร์เรลต่อวัน สุงสุดเป็นประวัติการณ์
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
- นาย Olivier Le Peuch, CEO ของบริษัท Schlumberger คาดการณ์ปริมาณการผลิต Shale Oil ของสหรัฐฯ เติบโตลดลง โดยในปี พ.ศ. 2562 เติบโต 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ปี พ.ศ. 2563 จะเติบโต 600,000-700,000 บาร์เรลต่อวัน และปี พ.ศ. 2564 เติบโต 200,000 บาร์เรลต่อวัน
- ICE รายงานสถานะการลงทุนสัญญาน้ำมันดิบ Brent ในตลาดลอนดอน สัปดาห์สิ้นสุด 25 ก.พ. 63 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับสถานะถือครองสุทธิ (Net Long Position) เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 5,484 สัญญา อยู่ที่ 288,075 สัญญา
- CFTC รายงานสถานะการลงทุนสัญญาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดนิวยอร์กและตลาดลอนดอน สัปดาห์สิ้นสุด 25 ก.พ. 63 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับ Net Long Position เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 29,853 สัญญา อยู่ที่ 148,585 สัญญา
- Baker Hughes Inc. รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมัน (Oil Rig) ในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด 28 ก.พ. 63 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 1 แท่น อยู่ที่ 678 แท่น ลดครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์
แนวโน้มราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบลดลงจากการระบาดของไวรัส COVID-19 ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศยกระดับการเตือนภัยต่อการแพร่ระบาดจากเดิมอยู่ในระดับ “รุนแรง” มาเป็นระดับ “รุนแรงมาก” มีความเสี่ยงการติดเชื้อขยายวงไปทั่วโลก ด้านเศรษฐกิจของจีน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและบริการ (PMI) ในเดือน ก.พ. 63 ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ผู้ค้าน้ำมันและนักลงทุนวิตกว่าเศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัว หรือถดถอย อีกทั้ง Reuters Poll (วันที่ 28 ก.พ. 63) ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตอุปสงค์น้ำมันโลกปี พ.ศ. 2563 ลดลงจากการประเมินครั้งก่อน (ในเดือน ม.ค. 63) ที่ระดับจากปีก่อน 0.8 -1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 0.7-1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ด้านกลุ่ม OPEC+ ที่จะประชุมในวันที่ 5-6 มี.ค. 63 นักวิเคราะห์คาดซาอุดิอาระเบียกำลังพิจารณาลดปริมาณการผลิต 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในไตรมาส 2/63 สูงกว่าปริมาณที่คณะทำงานทางเทคนิค (Joint Technical Committee) เสนอให้ลด 600,000 บาร์เรลต่อวัน อีกทั้งให้จับตาการประชุม FED วันที่ 19-20 มี.ค. 63 นี้ โดย Goldman Sachs คาดว่า FED จะลดอัตราดอกเบี้ยครั้งเดียว 0.50% จาก 1.50-1.75% มาสู่ 1.0%-1.25% ด้านเทคนิคสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดิบ ICE Brent จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 48-53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบ NYMEX WTI อยู่ในกรอบ 43-48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบ Dubai จะะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยรายสัปดาห์ลดลงเนื่องจากการระบาดของไวรัส COVID-19 จำกัดการเดินทางสัญจรในจีน และประเทศอื่นๆ ที่มีผู้ติดเชื้อ ทั้งนี้ โรงกลั่น Manali (กำลังการกลั่น 210,000 บาร์เรลต่อวัน) ในอินเดียของ Chennai Petroleum มีแผนกลับมาดำเนินการ CDU (Crude Distillation Unit: 57,000 บาร์เรลต่อวัน) 1 ใน 3 เครื่อง ที่หยุดซ่อมแซมหลังเกิดเพลิงไหม้ ตั้งแต่ 4 ก.พ. 63 และ Platts รายงานจีนส่งออกน้ำมันเบนซิน ช่วง 1-24 มี.ค. 63 อยู่ที่ 2.23 ล้านบาร์เรล สูงกว่าปริมาณส่งออกเดือน ก.พ. 63 ที่ระดับ 646,000 บาร์เรล อย่างไรก็ตาม Genscape รายงานตลาดน้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง เนื่องจากอุปทานตึงตัว หลังจากโรงกลั่นในบริเวณ Gulf Coast และ East Coast รวม 6 แห่ง มีปัญหาทั้งจากเพลิงไหม้และปิดดำเนินการฉุกเฉิน ขณะที่โรงกลั่นบางส่วนเริ่มเตรียมหยุดซ่อมบำรุง EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด 21 ก.พ. 63 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 2.7 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 256.4 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 1 เดือน และ International Enterprise Singapore (IES) รายงานปริมาณสำรอง Light Distillates เชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุด 26 ก.พ. 63 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 0.65 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 12.85 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือน ด้านเทคนิคในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันเบนซินจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 56-61 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลเฉลี่ยรายสัปดาห์ลดลงเนื่องจาก Platts รายงาน Arbitrage น้ำมันดีเซลจากภูมิภาคตะวันออกไปยังตะวันตกปิด อย่างไรก็ตาม Hindustan Petroleum Corp. Ltd. (HPCL) ของอินเดียออกประมูลซื้อน้ำมันดีเซล 0.001 %S ปริมาณ 624,000 บาร์เรล และ 490,000 บาร์เรล ส่งมอบ 17-22 มี.ค. 63 ด้านปริมาณสำรอง EIA รายงานปริมาณสำรอง Distillates เชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด 21 ก.พ. 63 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 2.1 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 138.5 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน และ IES รายงานปริมาณสำรอง Middle Distillates เชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุด 26 ก.พ. 63 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 280,000 บาร์เรล อยู่ที่ 11.4 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ทางเทคนิคในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดีเซล จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 56.5-61.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
โทรศัพท์ 0-2537-3197,02-537-3365 ฝ่ายแผนและบริหารบริษัทในเครือ หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ปตท.