พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพรายสัปดาห์ (โรคคอตีบ) กรมควบคุมโรค

“จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคคอตีบ ในปี 2562 ที่ผ่านมา พบผู้ป่วย 18 ราย  เสียชีวิต 5 ราย กลุ่มที่มีอัตราป่วยสูงสุด ได้แก่ เด็กแรกเกิด-4 ปี รองลงมาคือ 10–14 ปี และ 55-64 ปี ตามลำดับ  โดยจังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด 5 อันดับแรก คือ สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และสระแก้ว  ส่วนในปี 2563 นี้ แม้จะยังไม่มีรายงานผู้ป่วยยืนยันตามระบบเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา แต่จากการตรวจสอบข่าวการเฝ้าระวังเหตุการณ์ในช่วงต้นปี 2563 นี้ พบผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์รายงานสงสัยโรคคอตีบแล้ว 6 เหตุการณ์”

“การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงนี้มีโอกาสจะพบผู้ป่วยโรคคอตีบได้ เนื่องจากในบางพื้นที่เด็กอาจยังไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ โดยเฉพาะตามแนวชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านที่ความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนยังไม่เพียงพอ รวมถึงผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำหรือมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง และในสถานที่ที่มีผู้คนอยู่รวมกันจำนวนมาก เช่น โรงเรียนประจำ ศูนย์เด็กเล็ก เป็นต้น โรคคอตีบ เป็นโรคติดเชื้อเฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจส่วนบน มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดการอักเสบ เชื้อติดต่อจากการไอ จามรดกัน หรือพูดคุยในระยะใกล้ชิด บางครั้งอาจติดต่อกันโดยใช้ภาชนะร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ ช้อน หรืออมของเล่นร่วมกันในเด็ก อาการหลังรับเชื้อผู้ป่วยจะมีอาการไข้ต่ำๆ คล้ายหวัดในระยะแรก ไอเสียงก้อง เจ็บคอ เบื่ออาหาร ในเด็กโตอาจจะมีเจ็บคอคล้ายกับคออักเสบ อาจจะพบต่อมน้ำเหลืองที่คอโตด้วย รายที่รุนแรงจะพบแผ่นเนื้อเยื่อสีขาวหรือสีเทาที่คอหอย ซึ่งอาจอุดกั้นทางเดินหายใจ และอาจพบภาวะแทรกซ้อน เช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เส้นประสาทอักเสบ ถ้าเป็นรุนแรงอาจทำให้เป็นอัมพาตและเสียชีวิตได้  กรมควบคุมโรค ขอแนะนำวิธีป้องกันโรคนี้ โดยการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยการให้วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ จึงขอให้ผู้ปกครองนำบุตรหลานไปรับวัคซีนให้ครบตามช่วงเวลาที่กำหนด ตั้งแต่อายุ 2 เดือนขึ้นไป ควรสังเกตอาการของบุตรหลานอย่างใกล้ชิด หากมีอาการดังกล่าวข้างต้น ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว สอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422”

………………………………………………………….

ข้อมูลจาก : ทีม SAT / สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค

วันที่ 22 ก.พ. 2563